DAY 4 : Sapporo Zoo, และ Snow Festival zone 3 สุดหนาว
วันนี้พวกเราออกจาก โรงแรมที่พักกันแต่เช้าเลย เพราะว่าออกไปนอกเมืองอีกวันนึง จุดเด่นวันนี้ก็คงเป็น Asahiyama Zoo ล่ะมั๊ง ... พวกเราออกจาก โรงแรมที่พักกันไปนั่งรถไฟเพื่อตรงไปเมือง Asahikawa หลังจากนั่งๆหลับๆ ตื่นๆ ก็ไปถึงสถานี Asahikawa พวกเราตั้งใจว่าจะไปที่ หมู่บ้าน Ramen กันก่อนที่จะไปตะลุยสวนสัตว์ และ ปิติก็ตกลงใจว่าจะไป Taxi น่าจะดีกว่าเดินทางด้วยเส้นทางอื่นๆ
จำได้ว่า ออกจากสถานีมา แถวๆนี้นะครับ (ถ้าจำไม่ผิด)
การนั่ง Taxi ครั้งแรกๆ ของการมาญี่ปุ่นเลย ซึ่งพวกเราพบว่า การนั่ง Taxi นั้นหากว่า นั่งกัน 4 คนหล่ะก็ พอไหว ... (หารค่าใช้จ่ายกันแล้ว สบายๆอยู่พอจะอาศัยเดินทางยามฉุกเฉินได้) นั่ง Taxi มาสักพักพวกเราก็มาถึงที่ あさひかわラーメン村 (Asahikawa Ramen Village) โชคพวกเราดีนิดหน่อย เพราะว่า จังหวะที่พวกเรามาถึงนั้น เรามองเห็น กลุ่มขอรถทัวร์สามสี่คัน กำลังหาที่จอด ซึ่งคาดว่า หากจอดเรียบร้อย ร้านราเมนแถวๆนี้คงแน่น น่าดู
จังหวะนั้น สิ่งที่เราต้องเร่งทำคือการ หาร้านแล้ว เข้าไปหม่ำ
หน้าดี Random หรือ มั่วร้านตกเป็นของผมเอง ผมก็มั่วไปร้านนึง ซึ่งร้านนี้เป็นร้านเดียวกับที่ น้องเขียร์เคยมาแดกด้วย ... ราเมนที่นี้ก็ พอรับประทานได้นะครับ ถึงว่า อร่อยเลย ... ((แต่ยังไม่สุด))
หลังจากอิ่มท้องแล้ว ... พวกเราก็ เตรียมตัวไปที่ สวนสัตว์กันนะครับเราตัดสินใจเดินออกมาเพื่อหา Taxi กันที่ถนนใหญ่ ... ซึ่ง ปิตินำทาง แล้วเราก็คิดกันว่า ต้องมี Taxi วิ่งไปวิ่งมาแน่นๆ ... เราเดิน
และเดิน
และเดิน
เอาไงต่อดี เพื่อน ??? |
อยู่นานเลย คิดว่าเดินกันมาไกลมาก ประมาณ 3 km หรือกว่านั้น แต่ก็ไม่มี Taxi เลย จนปิติตัดสินใจว่า ไปที่ สถานีรถไฟดีกว่า ... จังหวะนั้นผมเองก็เห็นด้วยจึงเดินไปที่ สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะหาได้จาก Google Map เราเดินต่ออีกจนในที่สุดก็ ถึง สถานีรถไฟ ... "ร้าง" จริงๆครับ สถานีรถไฟร้าง คือไม่มีอะไรเลย ไม่มีนายสถานี ไม่มีรถไฟ ... แต่ยังมีราง
ทำไงหล่ะครับ ? โชคยังเข้าข้างเราเพราะว่า ปิติพูดญี่ปุ่นได้และกำลังมี คุรป้า เดินมาทางนั้นพอดี ... "ปิติลุยถามเลย" ผมพูดด้วยสายตาปิ๊งๆ ปิติก็ลุยเข้าไปถามด้วยความ งงๆ ...
บทสนทนาผมก้ไม่เข้าใจหรอกนะครับ
สรุปว่า ปิติกลับมาบอกผมว่า ... "กูแปลไม่ทัน"
ปิติเล่าว่า พอเข้าไปถามคุณป้า คุณป้า ก็ตอบกลับมาอย่างไว ... ประโยคแรกยังแปลในหัวไม่เสร็จ ประโยค 4-5 ตามมาแล้ว ... แถมพอคุณป้าเห็นว่าปิติดูไม่รู้เรื่อง เลย ชักชวนคุณป้ามาอีกคนนึง ... ช่วยกับตะลุยศัพท์ภาษาญี่ปุ่นให้ปิติ เหมือนระเบิดจาปริโน่ใน Iron-man 1 เลยทีเดียว
นี่แหละ สถานีรถไฟของพวกเรา ... งามแท้ๆ
สรุป ไม่ได้เรื่องครับ
พวกเราตัดสินในเดินกลับมาที่ ราเมนวิลเลจเพื่อให้ร้าน ราเมนช่วยโทรเรียก Taxi ให้หน่อย
พอเดินมาถึงสิ่งที่เราคาดไม่ถึงคือ ... "เห่ย Taxi จอดอยู่เต็มเลย" ฮ่า ๆๆๆ พวกเราวิ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ไปหา Taxi เพื่อจะบอกว่า พาพวกกูไป สวนสัตว์หน่อย แต่ Taxi เค้าบอกว่า เค้าต้องรอรับคน แต่ พอจะช่วยเรียก taxi ให้มารับพวกเราได้ ปิตาซัง คือชื่อที่พวกเราใช่ เพื่อให้ Taxi มารับ ...
โอ้ว แล้วที่เดินไปมันคืออะไร ? ฮ่า ๆๆ
ในที่สุด Taxi ก็มาแล้วก็รับพวกเราไป สวนสัตว์ Asahiyama Zoo
ที่ Asahiyama Zoo ที่นี่เด็ดสุดก็คงเป็น เรื่อง พาเรดนกเพนกวิน ซึ่งพวกเรามาถึงก็เป็นเวลาพาเรดพอดี (รอบสุดท้าย วันนึงที่นี่มีพาเรด 2 รอบคือเช้าและบ่าย) พวกเรามายื่นรอดูเพนกวินอย่างใจจดจ่อ ในที่สุดเพนกวินก็มา มัน มัน มันน่ารัก ก ก ก ก ...
ที่สวนสัตว์นี้ยังมีสัตว์อีกเยอะแยะเลย แต่ละตัวดูร่าเริงมากเลย ไม่รู้เพราะว่า หิมะตกหรือป่าว ทั้งแมวน้ำ ฮิปโป หมีขาว หมาจิ้งจอก ตัวอะไรอีกเยอะแยะเลย แปลกตามมากๆ ...
ได้ไอติมก่อนเข้าสวนสัตว์มาด้วยแหละ |
หลังจากเพลินกับ สัตว์น้อยใหญ่แล้ว พวกเราก็ ต้องกลับเข้าเมืองแล้วหล่ะ ... พวกเราตัดสินใจว่าจะไปดู Snow Fes อีกโซนที่พวกเรายังไม่ได้ไปดู ... โซนนี้จะเป็นพวกของเล่นเด็ก ตุ๊กตาหิมะ รูปตัวการ์ตูนต่างๆ มี Transformer ด้วยนะ ...
อันนี้เป็นตุ๊กตาหิมะที่ มี projector ฉายให้ภาพเปลี่ยนหน้าไปมาด้วย เท่ห์ชะมัด |
หนาวจังเลย ... หนาว ๆ ๆ ๆ ๆๆ โชคดีมีซุปอุ่นๆมาแจก |
หลังจากที่หนาวกับ งานหิมะ ถ่ายรุปกันเพลินเต็มที่ แล้ว ... ผมเองแหละที่ทนหนาวไม่ได้ อยากจะเข้าไปหาที่อุ่นๆ อยู่ชะมัด ... พวกเราดูงานจนหมด ทั่วแล้วก็เป็น เมนูต่อไปนั้นคือไปหม่ำเนื้อเจงกีข่าน พร้อม Buffet เบียร์ พวกเราขึ้นรถไฟกลับมาที่ Sapporo เพื่อจะหาอะไรหม่ำ ๆ ...
หลังจากที่ถึง สถานีรถไฟที่ Sapporo แล้วพวกเราก็เดินไปตะลุยไปหาร้านเนื้อเจงกีสข่า
นี่เลย ทีเห็นไกลๆ นั้นแหละ Beer กับเนื้อเจงฯ
จากสถานีกว่าจะมาถึงร้านอาหารก็เดินมาประมาณ 15 นาทีได้มั๊ง มาถึงร้านแล้วเย้ ทางร้านบอกเราว่า อีกประมาณ 1 ชม. ร้านจะปิดแล้ว พวกเราตอบพร้อมๆกันว่า ... "ไม่เป็นไร" ... พวกเราไทโนฮิโตะ บริกรพาเรามาส่งที่โต๊ะ พวกเราเริ่มสั่งเนื้อเจงฯ สักพักพนักงานสาวก็มาเสริฟและเริ่มสอนพวกเราย่างเนื้อ (หารู้ไม่ว่า skill การย่างเนื้อของพวกเราเทพแค่ไหน)
พวกเราย่างกันอย่างเร็ว ...
กินอย่างไว ...
เบียร์ก็กระดก
มุบมุบ มับมับ
แป๊ปเดียว ผมก็เมา
หลังจากอิ่มแล้ว ... พวกเราก็เตรียมตัวมานั่งกันหน้าร้าน เพราะว่าร้านเค้าก็กำลังจะปิด ... ออกมาเจอเด็กวัยรุ่นกำลังเล่น หิมะกัน พวกเราก็เข้าไปแจมด้วยเลย ฮ่า ๆๆ ... เจอเด็กวัยรุ่นผู้ชายคนนึง คุยไปคุยมาก็พบว่าเค้าเคยมาเรียนที่ได้ พูดภาษาไทยได้ "สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องประชาชน ประชาชี" ...
อะไรของคุณครับ ...
ขากลับเรานั่ง Taxi กลับบ้านอีกแล้ว ก่อนจะหลับก็ ซัด ไอติมชาเขียวไปแท่งนึง ก่อนจะหลับเพราะฤทธิ์เบียร์กับเนื้องเจงกีสข่า ... เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะ
พี่กอฟเล่าละเอียดมากกค่ะ ตลกป้าพ่นญี่ปุ่นรัวว
ReplyDeleteน้องฮุยต้องอยู่ในเหตุการณ์ ปิติหน้าตาตลกมากๆ
Delete