DAY 3 : Chocolate Factory กับเมืองกุ๊งกิ๊ง Otaru
เช้าวันนี้ พวกเราเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการมาหม่ำข้าวหน้าเนื้อกันก่อน จะออกเดินทางไปที่เที่ยวกัน ... ร้านข้าววันนี้ผมเลือก ข้าวหน้าเนื้อแหละ จานไม่ใหญ่มาก รสชาติพอประมาณ ... รองท้องก่อนจะออกเดินทางไปเที่ยวกัน เช้าวันนี้หิมะยังเยอะเหมือนเดิม ... (ขาวไปทั้งเมืองเลย) ลมแรง อากาศหนาวจนไม่อยากเดินตากลมเลย
ข้าวหน้าเนื้อ ชามใหญ่ๆ ของผมเอง |
หลังจากอิ่มแล้ว ... พวกเราก็มาที่ สถานี JR กันก่อน (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ) ปิติ บอกว่าต้องมาจองตั๋ว รถไฟไป Tokyo กันก่อน ไหนๆ ก็ผ่านมาแถวๆ นี้แล้วก็จองไปเลยทีเดียว ... ระหว่างรอปิติจองตั๋ว ผมก็เดินเล่นๆแถวๆ สถานีนี่แหละ เจอคุณลุง ชาวอเมริกันชื่อ William S. Clark ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเกษตรกรรมของฮอกไกโด (รูปจำลอง) ก็แอบถ่ายมาสักรูปสองรูป ... แถมแถวๆนี้ยังมีนม ฮอกไกโดของแท้ๆ ด้วยนะ ก็จัดมา ขวดนึง แดกซะหน่อย ...
เอาตรงๆ ผมว่า รสชาติ ไม่แตกต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ (ไม่รู้ว่าเพราะผมเป็นพวกลิ้นจรเข้หรือป่าวนะ) ... นมที่นี้เบาๆ ซึ่งไม่ใช่แบบที่ผมชอบ ผมชอบนมเข้มข้นนิดๆ ทำให้ผมรู้สึกว่า Hokkaido Milk ไม่ถูกปากผมเลย
เอาตรงๆ ผมว่า รสชาติ ไม่แตกต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ (ไม่รู้ว่าเพราะผมเป็นพวกลิ้นจรเข้หรือป่าวนะ) ... นมที่นี้เบาๆ ซึ่งไม่ใช่แบบที่ผมชอบ ผมชอบนมเข้มข้นนิดๆ ทำให้ผมรู้สึกว่า Hokkaido Milk ไม่ถูกปากผมเลย
ได้จับนม ฮอกไกโดแล้วนะจ๊ะ ... แข็งและขาว ใช้ได้ |
นอกจากนี้แล้ว ระหว่างรอ ผมยังเจอ น้องมิกุตัวยักษ์อีกต่างหาก ... จริงๆ แล้วผมเองก็ไม่รู้จักเธอเป็นทางการมากมายหรอกครับ แต่ เธอก็น่ารักดี เลย เรียก ตั้มให้มีช่วยถ่ายรูปให้หน่อย ... เป็นที่ระลึก (ตอนหลังถึงรู้ว่า มิกุเป็น Vocalroid ที่เป็นโปรกแกรมสังเคราะห์เสียง จริงๆคุณเธอมีวงเป็นแก๊งค์เลยนะ แต่มิกุดังสุด เคยมีคอนเสิร์ตของตัวเองด้วยนะ)
ภายใน มี นิทรรศการอยู่หลายส่วนมากๆเลยอ่ะครับ ดูๆไปก็เพลินๆ ดีเหมือนกัน ... มีของเก่าๆ สวยๆ เยอะไปแยะไปหมดเลยอ่ะครับ ... จบจากนิทรรศการ (พวกเราต้องเดินตามรอยเท้าน้องหมาด้วยนะ) ... สุดท้าย ตอนจบที่ๆเรามาเจอก็คือ โรงงานผลิตขนม (Chocolate) ของที่นี่อ่ะครับ อารมณ์การมาเดินที่ Chocolate Factory ผมว่ามันได้อารมณ์ของ Carlies's Chocolate Factory ดีนะครับ โรงงานเปิดแบบนี้ผมว่าหายากส์ในไทย Business Model ของ Chocolate ก็ดีนะครับมีการเน้นเป็น Social มีจุดแข็งไม่จำเป็นต้องพึ่งทัวร์มาลง (เหมือนหลายๆที่ในเมืองไทย) แค่เราต้องคิดให้จบ ไปให้สุด
เอาหล่ะ หลังจากที่ ได้ตั๋วแล้ว ได้ถ่ายกับมิกุแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางไปที่แรกกันก่อนเลย นั้นคือ Chocolate Factory ของ Sapporo ซึ่ง อยู่แถวๆ Miyanosawa การเดินทางก็ไม่ได้ ลำบากอะไรเลย ออกจะสบายๆ ด้วย ...
บรรยาการในรถไฟตอนออกนอกเมือง เปลี่ยวดีเหมือนกันนะเนี๊ยะ |
ระหว่างทาง หิมะท่วมและเยอะไปไหม? ... |
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึง Chocolate Factory แล้ว เย้ ... เรา 4 คนเดินมาถึงประตูทางเข้า แล้วก็ต้องรีบทำเวลานิดนึง เพราะว่า โปรแกรมวันนี้เรายังมีที่ที่ต้องไปต่ออีก หลังจากที่เข้ามาในตัวอาคารแล้ว เราก็ต้องจ่ายเงินค่าผ่านไปดู ... มีการจับตัวไปถ่ายรูปด้วย ตากล้องก็จับถ่ายทุกคนแหละ พร้อม Print ให้เป็นที่ระลึก แถมยังเอากล้องของเราไปถ่ายรูปให้ด้วย (แล้วจะขายรูปได้ไหม) เหอะๆๆ ... (เผื่อว่าจะซื้อเป็นที่ระลึก)
ภายใน มี นิทรรศการอยู่หลายส่วนมากๆเลยอ่ะครับ ดูๆไปก็เพลินๆ ดีเหมือนกัน ... มีของเก่าๆ สวยๆ เยอะไปแยะไปหมดเลยอ่ะครับ ... จบจากนิทรรศการ (พวกเราต้องเดินตามรอยเท้าน้องหมาด้วยนะ) ... สุดท้าย ตอนจบที่ๆเรามาเจอก็คือ โรงงานผลิตขนม (Chocolate) ของที่นี่อ่ะครับ อารมณ์การมาเดินที่ Chocolate Factory ผมว่ามันได้อารมณ์ของ Carlies's Chocolate Factory ดีนะครับ โรงงานเปิดแบบนี้ผมว่าหายากส์ในไทย Business Model ของ Chocolate ก็ดีนะครับมีการเน้นเป็น Social มีจุดแข็งไม่จำเป็นต้องพึ่งทัวร์มาลง (เหมือนหลายๆที่ในเมืองไทย) แค่เราต้องคิดให้จบ ไปให้สุด
มีทั้งประวัติ
มีทั้งขั้นตอนการทำ
ให้ลองชิม
มีขายให้กลับบ้าน
มีให้ทำเองเป็นที่ระลึก
มีคาเฟ่
มีของให้ชมและถ่ายรูป
วิวสวยๆ
ตึกน่ารักๆ
หลายๆอย่างผมว่าคนไทยก็ทำได้ และถ้าทำรับรองดังแน่ๆ แต่เราคนไทยมักไม่ชอบสร้างเรื่องราว การมีเรื่องราวเป็นอะไรที่สำคัญนะครับ เราต้องหัดสร้างเรื่องราวแล้วล่ะจริงๆนะ
พอออกจากส่วนของการผลิตแล้ว ก็จะมาเจอกับ ร้านอาหาร กุ๊กกิ๊กกับ Cafe สุดสวย พร้อมวิวดีดี ... พวกเราก็กะว่าจะนัดสะหน่อย แต่ก็คงต้องพลาดไป เพราะอะไรอ่ะเหรอครับ ก็เพราะว่า ต้องรถคิวนานมาก ก ก ก ก ก ก ก ...
เนื่องจากมี คิวก่อนหน้าพวกเราประมาณ 25 คิว ... แป๋ว เลยอ่ะครับ
นี่ไง โรงงานผลิตขนม ... ดูสะอาดมาก ๆ ... เห็นแล้วอยากกิน |
น่ารักชะมัดเลย ... |
ส่วนของ Cafe วิวสวยมากๆ เลยอ่ะครับ สำหรับ ขนม เค้ก ก็น่ากินไปหมดเลยอ่ะครับ แต่พวกเราก็ต้องห้ามใจ ไม่กินให้ได้ ... รีบ เดินดุ๊กๆออกมาอย่างไว อ้อ เกือบลืมบอกไป Zone นี้เค้ามีรับสอนให้คนที่มาเยี่ยมชมได้มีโอกาส ทำขนมทำมือเอากลับบ้านด้วยนะ ...
แหล่มไปเลย
พวกเดินต่อมา พวกเราก็มาโซนที่เป็น ขาย ขนมแบบ เอากลับบ้านอีกโซนนึง
ใครหล่อกว่ากัน ? ... |
โซนสุดท้ายก่อนจะออกจากที่นี้ ก็อย่างที่บอกเป็นโซนขายของ ขายขนมเอากลับบ้าน มีการแสดงการทำ ลูกอมด้วยนะ (คนสับนี่สับอย่างเร็วมากๆ) ... สุดท้ายพวกเราซื้อขนมที่นี่ นิดๆหน่อยๆ และยังมีโอกาสได้ ชิมเค้กของที่นี้ด้วย ... ผมว่าเค้กที่นี่นิ่มมาก ๆ แต่ รสชาติไม่เข้มข้นเลยอ่ะ เอาหล่ะ ... ออกจาก Chocolate Factory ซะที่ คราวนี้เราจะมุ่งหน้าไป ที่เที่ยวเด็ดสุดของวันนี้แล้ว เย้
หลังจากที่เดินออกมาจาก Chocolate Factory แล้ว พวกเรานั่งรถไฟไปกันต่อ เพื่อมุ่งหน้าไป Otaru พอมามาถึง โอตารุ ก็ บ่าย 4 โมงได้ครับ ที่นี้ผมก็ไม่คุ้นชินเหมือนกันนะครับ รู้แต่ว่า เมืองเค้าน่ารักมาก ๆ ... หลังจากที่ลงจากรถไฟแล้ว พวกเราก็ นั่งรถเมล์เพื่อไปยังจุด Landmark ของที่นี่
อยากนั่งคันนี้อ่ะ แต่ไม่ได้นั่ง พลาด ด ด ด ด ด ด ด ... |
พอนั่งรถเมล์มา สัก 15 นาทีก็มาถึงจุดที่เป็น ร้านค้ามากมาย มีทั้งขนมของที่ระลึกต่างๆ เยอะแยะเลย ... พวกเต้ย เดินเข้าไปซื้อขนมกัน เป็น ขนมของโคนันตอนล่าสุด (เป็น เลเยอร์เค้ก | Baumkuchen) แล้วก็มีขนมนู้นนี่นั้อีกนิดๆหน่อยๆ ส่วนผมแอบเดินไปดู ร้านเป่าแก้ว ... (อยากบอกว่าร้านนี้ เป่าแก้วได้น่ารักมาก ๆ ... มีหลายๆ ชุดที่ผมอยากได้เลยอ่ะ ราคาก็แพงใช่ย่อย)
ถ้ากลับไปได้อยากได้มากเลย จะขนเงินไปซื้อกลับมาหลายๆชุดเลย เงิบๆ
หลังจากเดินในเมืองเล็กๆ เมืองนี้ ผมก็รู้แล้วหล่ะว่าทำไมผู้คนมากมายถึงอยากจะมาที่นี่สักครั้ง เมือง Otaru ไม่ใช่แค่เมืองที่มีของที่ระลึก มีขนมอร่อย แต่คงเป็นเพราะว่า Otaru เป็นเมืองที่น่ารักๆ ... เดินไปมุมไหน ไม่ว่าตรงไหน ก็จะมีอะไร กุ๊กๆกิ๊กๆ น่ารักๆ ให้แอบมองเห็นได้ตลอดเลย ... ผมแนะนำให้เป็นเมืองแห่ง สาวๆ กุ๊กกิ๊กเมืองนึงเลย เอาหล่ะ มาถึงจุดเด่นอีกจุดนึงของ Otaru นั้นคือ Music Box Shop ...
ร้านกล่องดนตรี ... (แอบเห็นใน Internet ก่อนจะมาแล้ว ว่า มัน น่าร๊าก ก ก ก ก กมาก)
หน้าร้านก็ น่ารักแล้วอ่ะ ... ปิ๊งมาก ๆๆๆ |
น่ารัก เหี้ยๆ อ่ะ ขอบอก |
กล่องดนตรีมากมายหลายรูปแบบ เรียงรายเต็มไปหมดเลยอ่ะครับ ... ร้านกล่องดนตรีที่นี้ แปลกกว่าทุกที่ที่ผมเคยไปมานะครับ คือ ที่นี้ เราสามารถ Mix เพลงเองได้ด้วย ... แถมกล่องดนตรีรูปแบบเดียวกัน มีเพลงให้เราเลือกมากมาย แถมแต่ละเพลงก็มีความหมายที่แตกต่างกันด้วย ... น่ารักชะมัด
ผมหลงไหลอยู่หลายกล่องเลยอ่ะครับ แต่ก็ต้องใจแข็ง เก็บเงินไว้ ช้อปปิ้งอย่างอื่นอีก ...
นี่ไงขนมโคนัน อิอิ ... มีลายด้วยอ่ะ |
หลังจากเดินมาหลายชั่วโมง พวกเราก็เริ่มท้องหิวแล้วสินะ ... จัดซูชิ เทพของ Otaru ซะหน่อยแล้วกัน ปิติพาพวกเราเดินทางไปที่ร้าน Masazushi เป็นร้านที่ได้คะแนนสูงที่สุดใน Otaru ประจำปี 2011 เลย พวกเราเดินไปที่ร้านแล้วก็พบว่า ...
ต้องรอคิว 1 ชม. พวกเราเลยตัดสินใจว่าไปเดินถ่ายรูปกันก่อนแล้ว พอใกล้ๆเวลาก็ค่อยๆเดินกลับมาทานซูชิดีกว่า ...
ระหว่างเดินไป เราก็แอ๊บแบ้วกันไปตลอดทางก่อนจะถึง Otaru Canal ที่นี่คนเยอะแยะ ทุกคนมาถ่ายรูปกันเกือบหมดเลย ... ตัวคลองจริงๆ ก็ไม่ได้กว้างมากนะครับ แต่ก็มีมุมสวยๆ ที่ให้ถ่ายกันอยู่แค่ 2-3 มุมเอง ผู้คนก็เลยเยอะแยะเป็นพิเศษ ... พวกเรา แยกย้ายกันไปถ่ายรูปกันคนละประมาณ 15 นาที แหละ ผมเองถ่ายไปไม่กี่รูปเอง เน้น เอา สวยๆ ดูวิว ถ่ายตัวเอง ด้วย ... ไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย
อากาศหนาวมาก -6C โอเคเลยนะครับ เย็นๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ .... |
เอาหล่ะ ได้เวลาเดินกลับมาที่ร้าน Mashazushi แล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ...
พวกเรากลับมาทันเวลา และต้องรออีกประมาณ 15 นาที ถึงจะได้ ที่นั่ง
มาถึงร้านแล้ว พวกเราอ่านเมนูกัน ...สักพัก ปิติก็เริ่มก่อนเลย "ชุดเทพ" ... ผมตาม ... "ชุดเทพ 2" ... เต้ยกับตั้มนั่งตัดสินใจแป๊ป แล้วก็ สรุปว่า พวกเราได้ ชุดเทพ กันมา 4 ชุด ... เรียงกันอย่างสวยงาม ... ปิ๊งๆๆ ระยิบระยับมาก ๆ ... แต่ที่นี่ก็ทำให้ ไม่ผิดหวังเลยนะ ... ถึงจะไม่ได้ เทพมากมายก็ตาม แต่สำหรับผม ผมว่ามันโอเคมาก ๆ เลยอ่ะครับ
โอโทโระ ... ละลาย ละลาย ละลาย |
4 ชุดเทพ ... ฮ่า ๆๆ ... แต่ละคนก็เต็มที่ อย่างที่ อยากได้กันหมด |
หลังจากที่อิ่มกันแล้ว พวกเราก็ เดินทางกลับบ้านกันดีกว่า ... ขากลับก็ยังได้มีโอกาสเดินกลับมาที่ Otaru Canal อีกรอบ ก็แวะถ่ายรูปกันอีก แต่รอบนี้ คนเหลือไม่มากแล้ว แถมคลองที่มีไฟก็เริ่มทำการเก็บไฟที่ลอยในน้ำแล้วกัน ... ผมได้มีโอกาส เอา แก้วกระดาษมาจุดเทียนด้วยแหละ ... น่ารักดี
บรรยากาศปลอด ผู้คน ... แต่คลองก็ยังเป็นคลอง สวยดีครับ (สวยกว่า คลองแสนแสบบ้านเราอีกนะเนี๊ยะ หึหึหึ) |
ขากลับมาที่ Sapporo พวกเราแวะ mini mart ด้วย ถอยอาหารกล่องมาเติมพุงเล็กๆ อีกหน่อย ผมได้ข้าวเต้าหู้ที่ปิติ แนะนำบอกว่าอร่อยมากมาย พอชิมจริงๆ ก็อร่อยจริงๆ ชอบมาก ก ก ก ... หลังจาก ข้าวเต้าหู้แล้ว ก็ ตามด้วย ชูครีม ก้อนโตๆ ... อร่อยอีก
หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน อาบน้ำ แล้วก็นอนพัก เตรียมตัวตะลุยเที่ยว กิน พรุ่งนี้ต่อ ... สบาย ๆ ๆ ๆ ๆ ... ฝันดี สรุปวันนี้สนุกมากมาย อ่ะครับ
No comments:
Post a Comment