Monday, May 20, 2013

Tokyo, Japan trip, DAY 5


DAY5 Goodbye Tokyo

Tokyo, Japan trip, DAY 5 : Japan to Bangkok

เมื่อคืนนอนไม่ค่อยจะหลับเลย เพราะว่าต้องตื่นแต่เช้า เตรียมตัวกลับบ้าน เช้านี้แก๊งค์เราตื่นกันแต่เช้า ฝนก็ตกปรอยๆด้วย หลังจากที่แบกกระเป่ามาจากห้องแล้ว ก็เลยตกลงใจว่าจะเรียก Taxi ไปที่ สถานี Shinjuku กัน แทนที่จะเดินกันไป ...

หลังจากที่ได้ Taxi แล้ว พวกเราก็มั่วๆ คุยบอก Taxi ไป Shinjuku Station พอถึงพวกเราก็ เดินไปที่สถานี NEX กันเลย ...
หน๊าวหนาว ชะมัดเลยอ่ะ

พอมาถึง พวกเราก็หาห้องนั่งรอ เพื่อเข้าไปหลบหนาวซะหน่อย ระหว่างรอก็ มีการไปซื้อน้ำที่ตู้น้ำด้วย ได้ ซุปข้าวโพดอุ่นๆ กับ Iced Chocolate มาแก้หนาว


นั่งรอ NEX พักใหญ่ๆ NEX ก็มา ก็ได้เวลาร่ำลา Japan เสียที Trip นี้เป็น Trip ที่สนุกมากๆ อีกทริปนึงเลยอ่ะครับ ผมจะจำจดมันไว้ ตลอดไปเลย แต่การจดจำที่ดีก็คือ เขียนมันลงไป พร้อมๆกับ ภาพถ่าย เพราะมันจะทำให้ ทริปๆ นี้อยู่ในความทรงจำผมตลอดไป ... (ถ้า blogger ไม่หายไปก่อนนะ)



"ตราประทับจากสถานที่ๆ ประทับใจ .."




Good Bye Japan แล้วฉันจะคิดถึงเธอ

Wednesday, May 15, 2013

Tokyo, Japan trip, DAY 4 : Kamakura เมืองเล็กๆ ที่ผมหลงรัก


DAY4 Tokyo Japan 

Tokyo, Japan trip, DAY 4 : Kamakura, Great Buddha

ตื่นแต่เช้าเลยครับวันนี้ ... เนื่องจากวันนี้พวกเราจะไปตะลุยนอกเมืองกันบ้างอ่ะครับ ... วันนี้เราจะไปที่ Kamakura กันครับ จากที่อ่านหนังสือมา และ น้อง แคทแนะนำมานั้น Kamakura เป็นเมืองเล็กๆ ไม่ห่างจากโตเกียวมากนัก มีสถานที่หลายที่ที่น่าแวะไปดู ... น้องแคท [@redlovetree] แนะนำว่า ควรไป 1 วันเลย ... แต่จากการที่ผมดูแล้ว คงมีเวลาไม่มากขนาดนั้น อาจจะไปได้แค่ ครึ่งกว่านิดๆ ... ก็ต้องกลับมาที่โตเกียวแล้วหล่ะ ...

อากาศเช้านี้ เย็นมากครับ มีฝนโปรยๆมาเป็นช่วงๆครับ

พวกเราออกจากโรงแรมเดินไปที่สถานี Shinjuku เพื่อไปซื้อตั๋วไป Kamakura กัน




ระหว่างทางเดินไปที่ Shinjuku Station ผมพบกับงานศิลปะที่ทางเดิน
รอดทางรถไฟด้วยนะครับ
พอเดินมาถึงที่ Shinjuku แล้ว พวกเราก็เดินไปซื้อบัตรที่ Odakyu ซึ่งผมมาเข้าใจตอนหลังว่า เป็น Private Railway Companies นึงในหลายๆเจ้าของญี่ปุ่นครับ รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย {คลิ๊ก} สำหรับ รายละเอียด รถไฟว่ามีกี่อย่างก็ตามไปที่นี่ {คลิ๊ก} หลังจากที่พวกเราซื้อบัตร Round Trip แล้วก็มายืนรอรถไฟกัน ที่ชานลา


ตอนแรกนึกว่าได้ไป คันนี้ ... แต่คันนี้เป็น Limited Express
ซึ่งถ้าจะไปต้องเพิ่มอีกคนละ 
1,200 เยนอ่ะครับ 
ที่กั้นคนตกไม่เหมือนบ้านเรานะครับ ฮ่า ๆๆๆ #BTS คงมีงบไม่พบทำเป็นแน่ อิอิอิ


ระหว่างที่รอ ผมก็งงๆกับรถไฟที่นี่มาก ๆ ... มันมากันตรงเวลามากๆครับ แถบจะไม่มีเลทกันเลย หน่อยกันตรงเวลาเค้าเป็น วินาทีเลยนะครับ ... คือบอกว่ามา 8:30 ก็มา 8:30 ตรงเป๊ะ ไม่มี ต้องให้มานั่งรอ มายืนรอเหมือนบ้านเรา ... ยังงงอยู่ว่า แม่งทำได้ไง ????


พอรถไฟมา พวกเราก็ขึ้นรถไฟแล้วก็ เตรียมตัวงีบเอาแรงกันเลย ... เพราะรถไฟเราออกจาก Shinjuku พวกเราต้องไปต่อรถกันที่ ... Fujisawa Station ซึ่งต้องลงรถ Express ที่เรานั่งมาไปต่อ รถไฟ Local อีกที (อันนี้มารู้ตอนที่ไปถึงแล้ว มั้่วๆ อยู่นานเลย ช่วงแรกๆ)

ครอบครัวเราต้องนั่งแบบเดียวกัน ฮ่า ๆๆๆ ... ผม กรรณ และ แม่ ... ฮ่า ๆๆๆๆๆ



กว่าที่พวกเราจะมาถึงที่ ก็กินเวลาไปประมาณ 1 ชม. 30 นาทีแน่ะครับ ... พวกเราก็เข้าห้องน้ำ กันที่สถานี แล้วก็มั่วๆ หลงๆ หาที่ต่อรถไฟกันพักใหญ่ๆเลยอ่ะครับ เพราะว่า สถานีที่ต้องไปต่อ ต่องเดินออกจากสถานีที่เราลงไป ประมาณ 200-300m เลยแหละ โชคดีที่ได้ google ช่วยไว้อีกที ... พอเรา

อ้อ อีกอย่างที่ทำให้พวกเราเสียเวลาคือ ... พวกเราพยายามหาว่า รถไฟขากลับของพวกเรา ออกจากที่ Fujisawa ตอนกี่โมงด้วย เพราะจะได้กะเวลากลับมาถูก ... ซึ่งพบว่าขากลับพวกเราต้องมาถึงประมาณ 14:30 ครับ ... โอเค เมื่อพร้อมก็ตะลุยเที่ยวได้แล้ว


สถานี Fujisawa ที่เป็น Local จะเล็กๆครับ รถไฟมีสายเดียว ดูน่ารักทีเดียว
ระหว่างที่พวกเรารอรถไฟ Local พวกเราตกลงกันว่าเราจะเที่ยวแบบ ไกลมาใกล้ นั้นคือไปให้สุดทางก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาที่ที่ใกล้ๆ ครับ เพราะฉะนั้น จุดแรกที่เราจะไปกัน ก็คือ Tsurugaoka Hachiman-gū Shrine เป็นวัดกลาง Kamakura เลยอ่ะครับ ...

หลังจากที่ รถไฟมาพวกเราก็ ขึ้นรถไฟ รถไฟที่ Kamakura แปลกว่าที่โตเกียวนิดหน่อย ตรงที่ เก่ากว่า ช้ากว่า ใส่ใจกว่า แม่บ้านเยอะกว่า เด็กๆเพี๊ยบ รูปวาดตรึม ... ดูแล้วอบอุ่นจัง ...
"ทำตาปิ๊งๆๆ ..."

ปู้นๆ ... รถไฟที่นี่เวลาที่จอดที่ชานลาแล้ว คนขับจะชะโงกหน้า/เดินมาดู ผู้โดยสารเดินออกจากรถ แบบใส่ใจอ่ะ ... ~ รักเลย



คนขับที่นี่ยอดเยี่ยมมากเลยอ่ะครับ ... รถไฟก็น่ารัก อบอุ๊นอบอุ่น มาก ๆๆ ...



หลังจากที่พวกเรามาถึงสถานี พวกเราก็ ตะลุยเดินไปที่วัด Tsurugaoka Hachiman-gū Shrine กันเลย ระหว่างทางที่เดินตะลุยกันไป ก็มีของมากมาย หลอกล่อให้ ผมเข้าไปชิมบ้างล่ะ ... ซื้อบ้างหล่ะ เยอะแยะบอกไม่ถูกเลยอ่ะ




ทางเดินที่เราเลือกเดินกัน เป็นทางที่เหมือนเป็นทางลับเลยอ่ะครับ เพราะว่า ขากลับผมกะว่าจะพาแก๊งค์เดินกลับมาอีกทางนึง (จะได้ครบๆ) ฮ่า ๆๆๆ

ระหว่างที่เดินเข้าๆออกๆ ร้านนั้นร้านนี้ แป๊ปเดียวเองก็มาถึงวัดแล้ว ... หน้าวัดเป็นเสาสีแดงขนาดใหญ่เหมือนที่ วัดทั่วๆไปใน ญี่ปุ่นมีอ่ะครับ ... ระยะทางจะหน้าวัดไปที่ตัววัดไม่ไกลมาก ทำให้ เราสามารถมองจะหน้าวัดไปเห็นตัววัดได้อย่างชัดเจนเลย ... มีคนมากมายเดินกันเต็มไปหมด





ป้ายหาเสียง น่ารักชะมัดลเย ฮ่า ๆๆ ... 



 
อร่อยมาก ๆ ... เพลินกับของกินทุกอย่างที่นี้ อิอิอิ


เมื่อมาถึง พวกเราแกกัน ออกไปเดิน ไหว้พระ ตามปกติ ... 

ระหว่างทาง ผมยังโชคดี (เหมือนมาเทศกาลการแต่งงานของชาวญี่ปุ่นเลย) ผมได้เจอกับหนุ่มสาวมาแต่งงานกันอีกคู่แล้วครับ ดูแล้ว Happy จุงเบย บ่องตง ...

ผมมุ่งหน้าไปที่ ศาลาหลักของวัดเลย ระหว่างที่จะเดินขึ้น ได้พบ เด็กน้อยๆ ... กำลังค่อยๆ ก้าวพาตัวเองขึ้นไปตามบันไดทีละเล็ก ทีละน้อย ผมก็ ล้อเลียน ก้าวตามน้องคนนั้น อย่างต้ั้งใจ จนเราสองคนถึงข้างบนพร้อมๆกัน อิอิ ... (สนุกจัง)









เด็กตัวน้อยกำลังค่อยๆ ก้าวขึ้นบันได มีพ่อแม่ ดูห่างๆ ... หนูน้อยตั้งใจมากเลยนะ




เมื่อผมขึ้นมาด้านบน ผมก็ไหว้พระ ... ดูผู้คนมากมาย เดินดู เครื่องลาง ซื้อของที่ระลึก ... เดินถ่ายรูป มีความสุขมากเลย กับวัดๆนี้ ถึงแหมอากาศ จะเย็นๆไปบ้างก็เถอะนะ








หลังจากที่ ทุกคน ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว พวกเรามาก็เจอกันที่ด้านหน้าวัดเหมือนเช่นเดิม เวลาพวกเราที่นี้เหลือน้อยแล้ว ... ต้องเร่งทำเวลากันหน่อย ... ระหว่างทางที่เราต้องเดินกลับไปที่ สถานีรถไฟ ไกลพอควร (จริงๆก็เท่ากับที่เดินมาแหละ) แต่ ผมเลือกเส้นทาง ที่ควรจะสสวยงาม ถ้ามีซากุระนะ ฮ่า ๆๆ ... เอาน่า ถึงไม่มี ผมก็คิดว่ามันก็ยังสวยงามอยู่ดิ

เส้นทาง กลางถนนที่นี่เต็มไปด้วยต้นซากุระ ถ้าเรามาทันช่วงที่ซากุระบานนะ มันต้องสวยมากๆ แน่ๆเลย ...





อ้าว ... เดินกลับๆ ทำเวลากันหน่อย เร่งๆๆๆ จ้ำจ้ำ ...



เมือ่เราเดินกลับมาถึงสถานี พวกเรามุ่งหน้าไปที่ Hase Station ครับ เพื่อที่จะได้ ไปปชม The Great Buddha ครับ ระหว่างที่รอรถไฟ สิ่งที่ผมพบก็คือ ตราประทับ ... เฮ้ย ไอ้ตราประทับที่เคยเจอที่ Tokyo Tower ผมเลยถึงบางอ้อ ครับ ว่า ที่ ญี่ปุ่นหลายๆสถานที่จะมี ตราประทับ ตราปั๊มให้นักท่องเที่ยวเอามาประทับเป็นที่ระลึก ... เฮ้ย กูพลาดไปกี่ที่ว่ะเนี๊ยะ ????

เอา ไม่เป็นไร เริ่มกันใหม่ยังทัน ฮ่าๆๆ

ปู้นๆ เสียงรถไฟมาแล้ว พวกผมก็ขึ้นรถไฟ รถไฟขบวนนี้มีอะไรแปลกๆตากว่าขบวนอื่นๆนิดนึงครับ นั้นคือ มีรูปวาดของเด็กๆ แปะเต็มไปหมดเลยอ่ะครับ ... เห็นแล้ว รู้สึกเลยว่า เด็กๆที่เมืองนี้ชอบรถไฟกันทุกคนเลย ฮ่า ๆๆ ปล. รถไฟที่นี้มีลายการ์ตูนน่ารักๆ เต็มไปหมดเลยนะ ... ฮ่า ๆๆๆ ผมก็ชอบเหมือนกัน
Trick&Tip : แนะนำให้เอาสมุดเล่มเล็กๆพกมาด้วยจะดีมากเลย เอาไว้ประทับตราลงสมุดเหมือนสะสม VISA เลย ปล. ตราประทับที่นี้อันใหญ่มากครับ ประมาณ ... ว่า ประทับ iPhone ได้เต็มๆหน้าจอเลย ล้นด้วย






เจอ Qoo ด้วย เป็นตัวการ์ตูนที่ผมชอบมากๆ สมัยที่เรียน ป.โท Qo o o o o o  ...




พวกเรามาถึงที่ Hase แล้วก็มุ่งหน้าตรงไปที่วัดเลย ... ตะลุย ย ย ย ย ย ย เมื่อมาถึง พบว่า มีคนมามากมายมาแวะไหว้พระเต็มไปหมดเลย ... หลังจากที่ไหว้พระแล้ว แม่ ก็เหลือบไปเห็น คนกำลังแสดงการชงชาเขียว แม่รีบเข้าไปแจ่มทันที อิอิ ...  เรานั่งพักที่นี้ ไหว้พระที่นี่ พักนึงใหญ่ๆ ...

พอกำลังเพลินๆ เท่านั้นแหละ ฝนก็เทลงมา ...







แม่มาแจม ดื่มชาเขียวกะเค้าด้วย
พวกเรารอฝนซาอยู่พักนึง แต่ก็ต้องตัดสินใจตะลุยฝนเพื่อจะได้กลับไปทันรถไฟ ... เพราะถ้ากลับไปไม่ทัน คราวนี้คงต้องอยู่ที่ Kamakura นานเลย ...




หลังจากตะลุยฝนมาถึงสถานี ทุกคน ต่างเปียกกันหมดเลย ผมหล่ะกลัวไม่สบายจริงๆ ... ก็พยายามทำตัวให้แห้งนะครับ ... จากจุดนี้ไป Kamakura กลายเป็นเมืองน่ารักๆ เมืองนึงที่ผมชอบไปเลย ... (ขนาดออกไปยังไม่ไกลจากโตเกียวนะครับ) ...  ผมคิดว่าถ้ามีโอกาส อยากกลับมาที่ Kamakura อีกสักครั้ง ... อยากน้อยที่นี้ก็ทำให้ผม ได้เปียกฝน หนาวลม ได้ไวหว้พระ เจอคนแต่งงาน เดินขึ้นบันไดกับเด็กน้อย ได้หม่ำของอร่อย ขนมแจ่ม ...

ขากลับ หลับตลอดทางเลยเรา ...

พอกลับมาถึงโตเกียว ที่สถานี ชินจูกุ คนเยอะแยะมากมาย พวกเรา ตัดสินใจเดินกลับไปข้างนอกเพื่อจะหาอะไรหม่ำๆกัน เพราะว่าวันนี้พวกเราแทบยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ... ฝนก็ตก ... เปียก หนาว ... เรารีบๆ จ้ำๆๆๆๆ ... วนไปวนมา หาร้านกินไม่ได้ จนมองไปข้างทางในที่สุดก็เจอร้านที่กินได้ สักที เรียกว่าเป็นร้านที่ช่วยชีวิตพวกเราเลย



ก๋วยเตี๋ยว ที่อร่อยมาก เพราะว่า ข้างนอกหน๊าวหนาว ... ราเมนร้อนๆ ทำให้อุ่นขึ้นเยอะเลย


หลังจากอิ่มแล้ว พวกเรามุ่งหน้าไปที่ร้านของที่ระลึกที่วันแรก พวกเราเจอ ... โดยที่คาดหวังว่าร้านจะยังไม่ปิด ... (แต่ก็หลงทางนิดนึง) ... สุดท้ายไปที่ร้านก็ไม่ทัน ร้านปิดไปแล้ว ตั้งแต่ 17:00 T-T เศร้านิดๆ ...  ไม่น่าพลาดเลย ... สุดท้ายผมตัดสินใจพาทุกคนมาที่ Tokyo Station เพื่อซื้อของกันครับ ... ส่วนน้องกรรณก็จะได้มีเวลาไปถามเรื่องตั๋ว NEX สำหรับพรุ่งนี้ด้วย ... เมื่อพวกเรามาถึงที่ Tokyo Station แล้ว ก็ ยืนงงๆ ตกลงเรื่องเวลากันพักนึงก่อนจะแยกกันเดินดูของ Shopping





อย่างที่บอกว่า ที่ Tokyo Station มันส์และเพลินมาก ผมกับแม่ shopping กันจนแทบจะหมดตูดเลย ได้ตุ๊กตา ของเล่นมามากมายเลยอ่ะครับ ... แผนที่ร้านนั้นผมแนะนำให้ดูรูป ข้างล่างนะครับ มันบอกสัญญาลักษณ์ทุกร้านเลย ใครอยาก shopping ตัวไหนก็เดินตาม map ได้ทันทีเลยอ่ะครับ

จัดไป มีตุ๊กตาทุกตัวเลย แหล่มมาก ๆๆๆ


หลังจากที่ shopping กันพอตัวแล้ว พวกเราก็กลับโรงแรมกัน น้องกรรณได้แลกตั๋วเรื่อง NEX เป็นที่เรียบร้อย พวกเราก็เตรียมตัวกลับบ้าน โดยที่พรุ่งนี้เรามีนัดกันที่ Lobby เวลาประมาณ ตี 5 ครับ เย็นนี้หลังจากที่กลับเข้าห้องแล้ว ผมยังมีโอกาสไปแวะที่ Korean Super Market เพื่อซื้อ Kitkat ชาเขียวกลับมาฝากคนที่เมืองไทยด้วย ร้านนี้ อารมณ์คล้ายๆ Lotus บ้านเราเลยอ่ะครับ แถมเปิด 24ชม. อีกต่างหาก ผมถอย Kitkat มาอย่างบ้าคลั่งเลยอ่ะครับ
Trick&Tip : เวลาที่เรามา Shopping พนักงานเค้าไม่ใส่ถุงให้นะครับ เราต้องเอาถุงมาแล้วก็เดินไปที่ที่เค้าจัดไว้ให้เราเอาของใส่ถุงเองนะครับ ...

หลังจากนั้น ผมก็เดินกลับไปหาอะไรหม่ำๆก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องเพื่อพักผ่อน หลังจากอาบน้ำเเล้วก็ ดื่มเบียร์กับอาช้าง ก่อนจะหมดแรง นอนหลับ



ลองกระป๋องนี้แล้วกัน น้องพลอยเลี้ยงด้วย ฮ่า ๆๆๆ ... สบายกระเป๋า ปุดปุด


อุปกรณ์ ชาร์ตไฟฟ้า ของผม เยอะแยะมากมาย ฮ่า ๆๆๆๆๆ

พรุ่งนี้ต้องกลับแล้วจริงๆเหรอ ไม่อยากกลับเลยอ่ะ ไม่อยากกลับ ... 
จะงอแง จะงอแง ...
Good night